Article
21 พฤศจิกายน 2567
Sustainability Report คืออะไร? คู่มือฉบับย่อเพื่อทำความเข้าใจความยั่งยืนขององค์กร
รายงานความยั่งยืน (Sustainability Report) หรือ SD Report เป็นเครื่องมือสำคัญที่องค์กรใช้เปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อสะท้อนผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบขององค์กรต่อผู้มีส่วนได้เสียอย่างครบถ้วนและโปร่งใส
รายงานนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการแสดงให้เห็นถึงผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบขององค์กรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถสะท้อนได้อย่างครบถ้วนจากรายงานทางการเงินเพียงอย่างเดียว ตัวอย่างผลกระทบทางบวก เช่น การสร้างงาน การพัฒนาคุณภาพชีวิต ส่วนผลกระทบทางลบ เช่น การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ การสร้างมลภาวะ
การจัดทำรายงานความยั่งยืนช่วยเชื่อมโยงกลยุทธ์องค์กรเข้ากับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ทำให้องค์กรสามารถระบุความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจได้ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร เนื่องจากเป็นการเปิดเผยข้อมูลตามความเป็นจริงทั้งด้านบวกและลบ
การจัดทำรายงานควรยึดหลักการรายงานตามความเป็นจริง โดยไม่ปรับแต่งหรือจำกัดการรายงานเฉพาะข้อมูลด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ขององค์กร
การกำหนดเป้าหมายด้าน ESG เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการจัดทำรายงานความยั่งยืน องค์กรควรระบุเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ และสอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจ ตัวอย่างเช่น
การจัดทำรายงานตามกรอบมาตรฐานสากลช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความสามารถในการเปรียบเทียบข้อมูล ตัวอย่างแนวทางรายงานที่เป็นที่นิยม ได้แก่
การจัดทำรายงานความยั่งยืนที่มีคุณภาพไม่เพียงแต่เป็นการเปิดเผยข้อมูล แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในองค์กร โดยช่วยในการระบุความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจ พัฒนากลยุทธ์ และสร้างคุณค่าในระยะยาว
ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังยกระดับมาตรฐานการประเมินความยั่งยืนโดยเปลี่ยนจากระบบ SET ESG Ratings เป็น FTSE Russell ESG Scores ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ประเมินบริษัทกว่า 8,000 แห่งใน 47 ประเทศทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ดึงดูดนักลงทุนระดับโลก และเตรียมพร้อมให้บริษัทไทยสามารถเปรียบเทียบผลการดำเนินงานด้าน ESG กับบริษัทชั้นนำระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
FTSE Russell ESG Scores เน้นการประเมินจากข้อมูลที่บริษัทเปิดเผยสู่สาธารณะ ซึ่งสอดคล้องกับวิธีการประเมินบริษัททั่วโลก วิธีการนี้ช่วยยกระดับความโปร่งใสของการประเมิน ลดภาระการตอบแบบประเมินของบริษัทจดทะเบียน และช่วยให้บริษัทมีกรอบการดำเนินงาน ESG ตามมาตรฐานสากล
รายงานความยั่งยืนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเพิ่มอันดับและความสามารถในการแข่งขันในตลาด เนื่องจาก
1. เพิ่มความเชื่อมั่นในกลุ่มนักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
1. แนวทางการเริ่มต้น
การรายงานตามมาตรฐานสากลอย่าง GRI หรือ SASB ช่วยให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือและเปรียบเทียบได้ในระดับสากล นอกจากนี้ การเชื่อมโยงการดำเนินงานกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติยังแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาระดับโลก
การจัดทำรายงานความยั่งยืนไม่ใช่เพียงการเปิดเผยข้อมูล แต่เป็นกระบวนการที่ช่วยองค์กรในการระบุความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจ พัฒนากลยุทธ์ และสร้างคุณค่าในระยะยาว นอกจากนี้ ยังช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับกฎระเบียบด้าน ESG ที่มีแนวโน้มเข้มงวดขึ้นในอนาคต
สำหรับองค์กรที่เพิ่งเริ่มต้น การจัดทำรายงานความยั่งยืนอาจเป็นความท้าทาย แต่สามารถเริ่มจากการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และสื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสียอย่างต่อเนื่อง การใช้ประโยชน์จากเครื่องมือดิจิทัลและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยให้กระบวนการมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในท้ายที่สุด รายงานความยั่งยืนไม่ใช่เพียงเอกสารที่จัดทำขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร สู่การดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งองค์กร สังคม และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
เกี่ยวกับ Optiwise
Optiwise ให้บริการที่ปรึกษาด้านนักลงทุนสัมพันธ์ บริการที่ปรึกษาด้าน ESG การออกแบบเว็บไซต์องค์กร (Corporate Website Design) และเว็บไซต์นักลงทุนสัมพันธ์ (IR Website) พร้อมให้คำปรึกษาในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) และจัดทำเอกสารสำคัญของบริษัทมหาชน รวมถึงงานประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้กับบริษัท
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของ Optiwise ติดต่อเราได้ที่นี่
Sustainability Report คือ อะไร?
รายงานความยั่งยืน (Sustainability Report) เป็นเอกสารที่องค์กรจัดทำขึ้นเพื่อเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อสื่อสารผลการดำเนินงานและผลกระทบขององค์กรต่อผู้มีส่วนได้เสียอย่างครบถ้วนรายงานนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการแสดงให้เห็นถึงผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบขององค์กรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถสะท้อนได้อย่างครบถ้วนจากรายงานทางการเงินเพียงอย่างเดียว ตัวอย่างผลกระทบทางบวก เช่น การสร้างงาน การพัฒนาคุณภาพชีวิต ส่วนผลกระทบทางลบ เช่น การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ การสร้างมลภาวะ
การจัดทำรายงานความยั่งยืนช่วยเชื่อมโยงกลยุทธ์องค์กรเข้ากับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ทำให้องค์กรสามารถระบุความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจได้ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร เนื่องจากเป็นการเปิดเผยข้อมูลตามความเป็นจริงทั้งด้านบวกและลบ
การจัดทำรายงานควรยึดหลักการรายงานตามความเป็นจริง โดยไม่ปรับแต่งหรือจำกัดการรายงานเฉพาะข้อมูลด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ขององค์กร
องค์ประกอบสำคัญใน Sustainability Report (หรือ SD Report)
รายงานความยั่งยืนที่มีประสิทธิภาพประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญหลายประการ โดยมุ่งเน้นการนำเสนอข้อมูลที่ครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) อย่างครบถ้วนการกำหนดเป้าหมายด้าน ESG เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการจัดทำรายงานความยั่งยืน องค์กรควรระบุเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ และสอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจ ตัวอย่างเช่น
- ด้านสิ่งแวดล้อม: การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้พลังงานทดแทน หรือการลดปริมาณขยะ
- ด้านสังคม: การพัฒนาทักษะแรงงาน การส่งเสริมความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่าง หรือการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น
- ด้านการกำกับดูแลกิจการ: การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน การบริหารความเสี่ยง หรือการสร้างความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ
- ผลกระทบสิ่งแวดล้อม: การใช้ทรัพยากร การปล่อยมลพิษ และมาตรการลดผลกระทบ
- การพัฒนาชุมชน: โครงการความรับผิดชอบต่อสังคม การสร้างงานในท้องถิ่น และการพัฒนาคุณภาพชีวิต
- ธรรมาภิบาลองค์กร: โครงสร้างการบริหาร นโยบายด้านจริยธรรม และการบริหารความเสี่ยง
- การดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ: ผลประกอบการ การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และการกระจายรายได้สู่ผู้มีส่วนได้เสีย
การจัดทำรายงานตามกรอบมาตรฐานสากลช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความสามารถในการเปรียบเทียบข้อมูล ตัวอย่างแนวทางรายงานที่เป็นที่นิยม ได้แก่
- GRI (Global Reporting Initiative): เป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยแบ่งการรายงานเป็นหมวดหมู่ตามประเด็นด้าน ESG และกำหนดตัวชี้วัดที่ชัดเจน
- SASB (Sustainability Accounting Standards Board): มุ่งเน้นการรายงานข้อมูลด้านความยั่งยืนที่มีนัยสำคัญทางการเงิน โดยกำหนดมาตรฐานเฉพาะสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม
การจัดทำรายงานความยั่งยืนที่มีคุณภาพไม่เพียงแต่เป็นการเปิดเผยข้อมูล แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในองค์กร โดยช่วยในการระบุความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจ พัฒนากลยุทธ์ และสร้างคุณค่าในระยะยาว
ความเชื่อมโยงกับ SET ESG Ratings และ FTSE Russell ESG Scores
SET ESG Ratings เป็นการประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยครอบคลุมประเด็นสำคัญใน 3 มิติหลัก ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล การประเมินนี้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดีตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังยกระดับมาตรฐานการประเมินความยั่งยืนโดยเปลี่ยนจากระบบ SET ESG Ratings เป็น FTSE Russell ESG Scores ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ประเมินบริษัทกว่า 8,000 แห่งใน 47 ประเทศทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ดึงดูดนักลงทุนระดับโลก และเตรียมพร้อมให้บริษัทไทยสามารถเปรียบเทียบผลการดำเนินงานด้าน ESG กับบริษัทชั้นนำระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
FTSE Russell ESG Scores เน้นการประเมินจากข้อมูลที่บริษัทเปิดเผยสู่สาธารณะ ซึ่งสอดคล้องกับวิธีการประเมินบริษัททั่วโลก วิธีการนี้ช่วยยกระดับความโปร่งใสของการประเมิน ลดภาระการตอบแบบประเมินของบริษัทจดทะเบียน และช่วยให้บริษัทมีกรอบการดำเนินงาน ESG ตามมาตรฐานสากล
รายงานความยั่งยืนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเพิ่มอันดับและความสามารถในการแข่งขันในตลาด เนื่องจาก
- เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับการประเมิน ESG: ข้อมูลที่เปิดเผยในรายงานความยั่งยืนจะถูกนำมาใช้ในการประเมิน SET ESG Ratings และ FTSE Russell ESG Scores
- สร้างความน่าเชื่อถือ: บริษัทที่มีการรายงานข้อมูล ESG อย่างครบถ้วนและโปร่งใสมักได้รับความเชื่อถือจากนักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากขึ้น
- ดึงดูดนักลงทุนที่สนใจความยั่งยืน: นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างยั่งยืนมากขึ้น รายงานความยั่งยืนจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนกลุ่มนี้
- สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน: บริษัทที่มีผลการดำเนินงานด้าน ESG ที่ดีมักมีศักยภาพในการเติบโตและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
ประโยชน์ของ Sustainability Report สำหรับองค์กร
การจัดทำรายงานความยั่งยืน (Sustainability Report) หรือ SD Report มีประโยชน์หลายประการสำหรับองค์กร1. เพิ่มความเชื่อมั่นในกลุ่มนักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
- ให้ภาพที่ชัดเจนแก่องค์กรเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
- ช่วยระบุโอกาสและความเสี่ยงในกิจกรรมที่องค์กรดำเนินการ
- เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร โดยแสดงถึงความโปร่งใสและความรับผิดชอบ
- ดึงดูดนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างยั่งยืน
- สร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มชื่อเสียงในชุมชน
- ส่งเสริมความผูกพันกับพนักงานที่มีอยู่และดึงดูดบุคลากรใหม่ที่สนใจ
- สื่อสารถึงความสำเร็จและความท้าทายขององค์กรอย่างโปร่งใส
- แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
- ช่วยให้องค์กรเข้าใจถึงหนทางในการมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม
- ทำให้องค์กรสามารถระบุและจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ ESG ได้ดีขึ้น
- ช่วยให้องค์กรมีความพร้อมในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรฐานด้าน ESG ที่มีแนวโน้มเข้มงวดขึ้น
- ส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมและการสร้างสรรค์วิธีดำเนินงานที่ดีกว่าในปัจจุบัน
- วัดผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจ
- เข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างเป้าประสงค์ทางธุรกิจกับผลกระทบด้าน ESG
- วางแผนองค์กรตามข้อมูลที่ได้จากการจัดทำรายงาน
- สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาด
เริ่มต้นจัดทำ Sustainability Report อย่างไร?
การเริ่มต้นจัดทำรายงานความยั่งยืน (Sustainability Report) หรือ SD Report เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการวางแผนและการมีส่วนร่วมจากหลายฝ่ายในองค์กร ดังนี้1. แนวทางการเริ่มต้น
- การเตรียมการภายในองค์กร: จัดตั้งคณะทำงานที่ประกอบด้วยตัวแทนจากหลายแผนก เพื่อให้มั่นใจว่าทุกมุมมองได้รับการพิจารณา
- การเก็บข้อมูล: รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานด้าน ESG ขององค์กร โดยครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ
- การจัดทำเอกสาร: เริ่มจากการกำหนดโครงสร้างของรายงาน โดยอาจอ้างอิงจากมาตรฐานการรายงานสากล เช่น GRI Standards
- กำหนดเป้าหมายด้าน ESG: ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ และสอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจขององค์กร
- การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย: ระบุและสื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อเข้าใจความคาดหวังและประเด็นที่สำคัญ
- การสื่อสารภายในองค์กร: สร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของพนักงานทุกระดับในการดำเนินงานด้านความยั่งยืน
- ที่ปรึกษาด้าน ESG: พิจารณาการใช้บริการที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดทำรายงานความยั่งยืน โดยเฉพาะสำหรับองค์กรที่เพิ่งเริ่มต้น
- เครื่องมือดิจิทัล: ใช้ซอฟต์แวร์หรือแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และจัดทำรายงานด้าน ESG
- แนวทางและมาตรฐานสากล: ศึกษาและปฏิบัติตามแนวทางการรายงานที่เป็นที่ยอมรับ เช่น GRI Standards หรือ SASB เพื่อให้รายงานมีความน่าเชื่อถือและเปรียบเทียบได้
- คู่มือและแนวทางปฏิบัติ: ใช้ประโยชน์จากคู่มือการจัดทำรายงานความยั่งยืนที่จัดทำโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สรุปแนวทางและแผนสู่ความยั่งยืน
รายงานความยั่งยืนเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถสื่อสารผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างครอบคลุมและโปร่งใส การจัดทำรายงานที่มีคุณภาพไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือขององค์กร แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนการรายงานตามมาตรฐานสากลอย่าง GRI หรือ SASB ช่วยให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือและเปรียบเทียบได้ในระดับสากล นอกจากนี้ การเชื่อมโยงการดำเนินงานกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติยังแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาระดับโลก
การจัดทำรายงานความยั่งยืนไม่ใช่เพียงการเปิดเผยข้อมูล แต่เป็นกระบวนการที่ช่วยองค์กรในการระบุความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจ พัฒนากลยุทธ์ และสร้างคุณค่าในระยะยาว นอกจากนี้ ยังช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับกฎระเบียบด้าน ESG ที่มีแนวโน้มเข้มงวดขึ้นในอนาคต
สำหรับองค์กรที่เพิ่งเริ่มต้น การจัดทำรายงานความยั่งยืนอาจเป็นความท้าทาย แต่สามารถเริ่มจากการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และสื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสียอย่างต่อเนื่อง การใช้ประโยชน์จากเครื่องมือดิจิทัลและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยให้กระบวนการมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในท้ายที่สุด รายงานความยั่งยืนไม่ใช่เพียงเอกสารที่จัดทำขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร สู่การดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งองค์กร สังคม และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
เกี่ยวกับ Optiwise
Optiwise ให้บริการที่ปรึกษาด้านนักลงทุนสัมพันธ์ บริการที่ปรึกษาด้าน ESG การออกแบบเว็บไซต์องค์กร (Corporate Website Design) และเว็บไซต์นักลงทุนสัมพันธ์ (IR Website) พร้อมให้คำปรึกษาในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) และจัดทำเอกสารสำคัญของบริษัทมหาชน รวมถึงงานประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้กับบริษัท
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของ Optiwise ติดต่อเราได้ที่นี่