Circular Economy คือ อะไร? แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เปลี่ยนโลกธุรกิจและสร้างความยั่งยืน | Optiwise
Article
24 กุมภาพันธ์ 2568

Circular Economy คืออะไร? แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เปลี่ยนโลกธุรกิจและสร้างความยั่งยืน

Circular Economy คืออะไร? แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เปลี่ยนโลกธุรกิจและสร้างความยั่งยืน
เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) คือ แนวคิดที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยการออกแบบกระบวนการผลิตและบริโภคให้เกิดการหมุนเวียนของวัสดุและทรัพยากร เพื่อลดการใช้วัตถุดิบใหม่ ลดปริมาณของเสีย และรักษาคุณค่าของทรัพยากรให้อยู่ในระบบนานที่สุด

ความหมายเศรษฐกิจหมุนเวียน

เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) คือ แนวคิดเชิงระบบในการออกแบบกระบวนการ ผลิตภัณฑ์หรือบริการ และรูปแบบธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการจัดการทรัพยากรให้เกิดการหมุนเวียนและลดของเสียอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แนวคิดนี้มีเป้าหมายเพื่อแยกกิจกรรมทางเศรษฐกิจออกจากการใช้ทรัพยากรที่มีจำกัด และออกแบบของเสียออกจากระบบ

เศรษฐกิจหมุนเวียนแตกต่างจากเศรษฐกิจเชิงเส้น (Linear Economy) อย่างชัดเจน โดยเศรษฐกิจเชิงเส้นเป็นระบบการผลิตและบริโภคแบบเดิมที่เริ่มจากการนำทรัพยากรธรรมชาติมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ ใช้งาน และทิ้งเป็นของเสีย แนวคิดนี้มักถูกเรียกว่า "take-make-consume-throw away pattern" ซึ่งเน้นการใช้วัตถุดิบและพลังงานจำนวนมากเพื่อผลิตสินค้าให้ได้มากที่สุด ส่งเสริมการบริโภคในปริมาณมาก และสุดท้ายก่อให้เกิดขยะในปริมาณมหาศาล

ในทางตรงกันข้าม เศรษฐกิจหมุนเวียนมุ่งเน้นการยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การแบ่งปัน การให้เช่า การใช้ซ้ำ การซ่อมแซม การทำให้ใหม่ และการนำกลับมาใช้ซ้ำ วิธีการนี้ช่วยชะลอการใช้วัตถุดิบใหม่และลดอัตราการเพิ่มขึ้นของขยะ

การเปลี่ยนผ่านจากเศรษฐกิจเชิงเส้นไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว โดยมุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

หลักการสำคัญของเศรษฐกิจหมุนเวียน

เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มีหลักการสำคัญ 3 ประการที่เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนแนวคิดนี้

1. การลดขยะและมลพิษ (Eliminating waste and pollution)

หลักการนี้เน้นการออกแบบและวางแผนตั้งแต่ต้นเพื่อลดการเกิดของเสียและมลพิษ โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น
  • การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สามารถถอดแยกชิ้นส่วนได้ง่ายเพื่อการซ่อมแซมและรีไซเคิล
  • การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้หรือสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
  • การพัฒนากระบวนการผลิตที่ลดการปล่อยมลพิษและของเสีย
2. การหมุนเวียนผลิตภัณฑ์และวัสดุ (Circulating products and materials)

หลักการนี้มุ่งเน้นการรักษาคุณค่าของทรัพยากรและผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในระบบนานที่สุด โดยส่งเสริมการใช้ซ้ำ การซ่อมแซม การปรับปรุงใหม่ และการรีไซเคิล แนวทางการดำเนินการ เช่น
  • การพัฒนาระบบการเช่าหรือแบ่งปันผลิตภัณฑ์ (Product-as-a-Service)
  • การสร้างระบบรับคืนผลิตภัณฑ์เก่าเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิล
  • การพัฒนาเทคโนโลยีการรีไซเคิลที่มีประสิทธิภาพสูง
3. การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ (Regeneration of nature)

หลักการนี้เน้นการสร้างความสมดุลระหว่างการใช้ทรัพยากรและการฟื้นฟูระบบนิเวศ โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนและการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างการดำเนินการ ได้แก่
  • การใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิต
  • การส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืนที่ฟื้นฟูดินและระบบนิเวศ
  • การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพและเป็นอาหารให้กับระบบนิเวศ
การนำหลักการเหล่านี้มาใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์และระบบธุรกิจเรียกว่า "Eco-Design" ซึ่งเป็นแนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ Eco-Design ใช้หลักการ 4R ได้แก่ การลด (Reduce) การใช้ซ้ำ (Reuse) การนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) และการซ่อมบำรุง (Repair) เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน

การประยุกต์ใช้หลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว โดยมุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนจึงเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในอนาคต

ความสำคัญและประโยชน์

เศรษฐกิจหมุนเวียนมีความสำคัญอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาสำคัญของโลกในปัจจุบัน และสร้างประโยชน์มหาศาลต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม ดังนี้

ด้านสิ่งแวดล้อม
  • ช่วยชะลอการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและปัจจัยการผลิต ลดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอน
  • ลดปริมาณขยะที่ถูกส่งไปยังหลุมฝังกลบหรือเตาเผา
  • สนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนแทนพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล
ด้านเศรษฐกิจ
  • สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เช่น การให้บริการซ่อมแซม การรีไซเคิล และการพัฒนาเทคโนโลยีสะอาด
  • ช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร
  • กระตุ้นให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง
  • ลดความเสี่ยงด้านอุปทานในอุตสาหกรรมการผลิต เช่น ความผันผวนของราคาปัจจัยการผลิต
ด้านสังคม
  • สร้างงานใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมต่างๆ
  • เพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนผ่านสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น
  • ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว
นอกจากนี้ เศรษฐกิจหมุนเวียนยังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ โดยกระตุ้นให้เกิดรูปแบบธุรกิจแนวใหม่ที่สอดคล้องกับแนวโน้มผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การประยุกต์ใช้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนจึงเป็นการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

การนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนไปใช้ในภาคส่วนต่างๆ และชีวิตประจำวันมีตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมมากมาย ดังนี้

ภาคอุตสาหกรรม
  • แบรนด์ Moreloop ของไทยสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อนำผ้าเหลือจากโรงงานมาขายต่อและผลิตเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผ้าเหลือใช้
  • บริษัท Philips พัฒนาต้นแบบธุรกิจเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับระบบแสงสว่างในอาคารและเครื่องมือแพทย์
  • IKEA ผลิตเฟอร์นิเจอร์จากไม้และขวดพลาสติก PET รีไซเคิล และใช้พลังงานแสงอาทิตย์และลมในร้านค้า
ภาคอิเล็กทรอนิกส์
  • ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีขนาดเล็กลงและใช้ทรัพยากรน้อยลง
  • ควบคุมประสิทธิภาพการผลิตให้เกิดของเสียน้อยที่สุด
  • ใช้เทคโนโลยี Mold Array Processing เพื่อลดของเสียในการผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์
  • เวียนใช้ซ้ำ Tray และ Reel ที่ใช้ใส่ชิ้นงานระหว่างการผลิต
  • ใช้กล่องกระดาษแทนกล่องไม้ในการบรรจุผลิตภัณฑ์เพื่อลดการใช้บรรจุภัณฑ์และน้ำหนักในการขนส่ง
ภาคการจัดการของเสีย
  • แยกสารเคมีประเภทกรด-ด่างจากกระบวนการผลิตมาใช้ปรับสภาพ pH ในระบบบำบัดน้ำเสีย
  • นำสารดูดความชื้น (Silica gel) เก่ามาใช้ดูดความชื้นในตู้ไฟ
ชีวิตประจำวัน
  • แยกทิ้งขยะให้ถูกต้องและนำไปส่งให้กับโครงการที่รับขยะบางประเภท เช่น กล่องนม ขวดพลาสติก ตามห้างสรรพสินค้า
  • ใช้แก้วน้ำส่วนตัวเวลาซื้อเครื่องดื่มเพื่อลดการใช้แก้วพลาสติก
  • พยายามใช้ของที่มีอยู่เดิมให้คุ้มค่าที่สุด
การนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ในชีวิตประจำวันเรียกว่า "Circular Living" ซึ่งมีแนวคิดคือ "ปรับเปลี่ยนวิธีใช้ สร้างความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมไปมากกว่าเดิม" การปรับใช้แนวคิดนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว

ความท้าทายและข้อจำกัด

การเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศไทยยังคงมีความท้าทายและข้อจำกัดหลายประการ ดังนี้

1. ข้อจำกัดด้านกฎหมายและนโยบาย

ปัจจุบันประเทศไทยยังขาดกฎหมายเฉพาะที่กำหนดเกี่ยวกับเศรษฐกิจหมุนเวียน ทำให้แนวทางการดำเนินการไม่มีความชัดเจนและขาดหน่วยงานหลักที่มีอำนาจและหน้าที่ในการดำเนินการ นอกจากนี้ ระบบภาษียังไม่เอื้อต่อการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน เนื่องจากเก็บภาษีจากฐานค่าจ้างหรือเงินเดือนจากภาคแรงงานเท่านั้น ไม่ได้คำนึงถึงต้นทุนการใช้ทรัพยากร

2. ข้อจำกัดด้านการเงิน

การเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการส่งเสริมและบริหารงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนยังเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง กองทุนสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่ได้กำหนดให้สามารถนำมาใช้สนับสนุนหรือส่งเสริมเรื่องการใช้เศรษฐกิจหมุนเวียนได้โดยตรง

3. ความท้าทายด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม

ประเทศไทยยังขาดนวัตกรรมที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน เช่น เทคโนโลยีการยืดอายุการใช้งานผลิตภัณฑ์ การซ่อมแซมผลิตภัณฑ์ และการถอดประกอบผลิตภัณฑ์

4. ข้อจำกัดด้านความรู้และทักษะ

บุคลากรในภาคธุรกิจยังขาดองค์ความรู้ที่ชัดเจนเกี่ยวกับเศรษฐกิจหมุนเวียน และมีจำนวนน้อยที่เข้าใจการทำงานในรูปแบบของเศรษฐกิจหมุนเวียน นอกจากนี้ ยังขาดการฝึกอบรมและการพัฒนาทักษะที่จำเป็น

5. ความท้าทายในการเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค

ผู้บริโภคบางกลุ่มยังไม่คุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์และบริการที่ยั่งยืน จึงอาจไม่ยอมรับผลิตภัณฑ์และบริการเหล่านั้น การสร้างความตระหนักและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นความท้าทายสำคัญ

6. ข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน

ระบบการจัดการขยะในประเทศไทยยังขาดประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวหรือสถานประกอบการหลายแห่งที่ไม่มีบริการจัดการขยะอย่างครบวงจร ทำให้ขยะไม่ถูกกำจัดอย่างถูกต้องและไม่เกิดการหมุนเวียน

7. ความท้าทายในการบูรณาการห่วงโซ่อุปทาน

ภาคอุตสาหกรรมไทยยังขาดการบูรณาการระหว่างคลัสเตอร์ตลอดห่วงโซ่อุปทาน และขาดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างโรงงาน นอกจากนี้ ยังขาดฐานข้อมูลชนิดและการใช้ประโยชน์ของเสียหรือวัสดุเหลือใช้ในการทำเศรษฐกิจหมุนเวียน

8. ต้นทุนในการปรับเปลี่ยน

การปรับธุรกิจสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนอาจต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากในระยะเริ่มต้น เช่น การลงทุนในการเปลี่ยนเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการผลิต หรือการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การแก้ไขความท้าทายและข้อจำกัดเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการพัฒนานโยบาย กฎหมาย เทคโนโลยี และการสร้างความตระหนักรู้เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน


เศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นแนวคิดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลืองและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและการหมุนเวียนวัสดุกลับมาใช้ใหม่ ประโยชน์ของเศรษฐกิจหมุนเวียนครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม โดยช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดปริมาณขยะและมลพิษ สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ และส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน

การนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนไปประยุกต์ใช้สามารถทำได้ในหลายภาคส่วน ตั้งแต่ระดับอุตสาหกรรมไปจนถึงชีวิตประจำวันของประชาชน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนยังคงมีความท้าทายหลายประการ เช่น ข้อจำกัดด้านกฎหมายและนโยบาย การเข้าถึงแหล่งเงินทุน และการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จำเป็น

การขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนให้ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการพัฒนานโยบาย สร้างนวัตกรรม และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการผลิตและบริโภค การศึกษาและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเศรษฐกิจหมุนเวียนจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือจะช่วยให้เข้าใจแนวคิดนี้ได้อย่างลึกซึ้งและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน

เกี่ยวกับ Optiwise

Optiwise ให้บริการที่ปรึกษาด้านนักลงทุนสัมพันธ์ บริการที่ปรึกษาด้าน ESG การออกแบบเว็บไซต์องค์กร (Corporate Website Design) และเว็บไซต์นักลงทุนสัมพันธ์ (IR Website) พร้อมให้คำปรึกษาในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) และจัดทำเอกสารสำคัญของบริษัทมหาชน รวมถึงงานประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้กับบริษัท

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของ Optiwise ติดต่อเราได้ที่นี่