FTSE Russell ESG Scores: ทำความเข้าใจตัวชี้วัดขององค์กรที่มุ่งสู่ความยั่งยืน

FTSE Russell ESG Scores เป็นระบบการประเมินด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยพัฒนาโดย FTSE Russell ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ระบบนี้ใช้โครงสร้างการประเมินที่ครอบคลุม 3 มิติหลัก 14 ธีม และกว่า 300 ตัวชี้วัด เพื่อช่วยให้นักลงทุนและบริษัทเข้าใจและยกระดับความยั่งยืน พร้อมทั้งสนับสนุนการตัดสินใจลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส

FTSE Russell คืออะไร? ความหมายและบทบาทสำคัญ

FTSE Russell คือ บริษัทชั้นนำระดับโลกที่ให้บริการด้านดัชนีตลาดหลักทรัพย์และการประเมินด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) โดยเป็นบริษัทในเครือของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange Group). บริษัทมีบทบาทสำคัญในการสร้าง ดูแล และให้ใบอนุญาตดัชนีตลาดหุ้นที่สำคัญ เช่น FTSE 100 ในสหราชอาณาจักร และ Russell 2000 ในสหรัฐอเมริกา

ในด้านการประเมิน ESG FTSE Russell มีประสบการณ์ในการประเมินบริษัทกว่า 8,000 แห่งใน 47 ประเทศทั่วโลก. บริษัทใช้วิธีการประเมินที่เป็นมาตรฐานสากล โดยมีคณะกรรมการอิสระซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากหลายภาคส่วน เพื่อสะท้อนแนวปฏิบัติที่ดีตามมาตรฐานสากลและสอดคล้องกับหลักการของ IOSCO (International Organization of Securities Commissions)

FTSE Russell ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อยทั่วโลก โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการคิดเป็นมูลค่าประมาณ 15.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ. บริษัทมีบทบาทสำคัญในการให้บริการโซลูชันด้านการลงทุนที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ FTSE Russell ยังมีบทบาทสำคัญในการผลักดันการลงทุนอย่างยั่งยืน โดยในปี 2020 บริษัทได้ตอบสนองต่อคำสั่งบริหารของสหรัฐอเมริกาด้วยการถอดบริษัทจีน 8 แห่งออกจากดัชนีของตน และในปี 2022 ได้ถอดหลักทรัพย์ของรัสเซียทั้งหมดออกจากดัชนี FTSE Russell เพื่อตอบสนองต่อการรุกรานยูเครนและมาตรการคว่ำบาตรที่ตามมา แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบและการตอบสนองต่อสถานการณ์โลกอย่างรวดเร็ว

การประเมิน ESG โดย FTSE Russell

FTSE Russell ESG Scores เป็นระบบการประเมินผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ของบริษัทจดทะเบียน โดยใช้โครงสร้างการประเมิน 3 ระดับ ประกอบด้วย

1. 3 มิติหลัก (Pillars): สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล
2. 14 ธีม (Themes): เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มาตรฐานแรงงาน การต่อต้านการทุจริต
3. มากกว่า 300 ตัวชี้วัด (Indicators): ครอบคลุมนโยบาย กลยุทธ์ กระบวนการ การตั้งเป้าหมาย และการติดตามผล

การประเมินจะพิจารณาจากข้อมูลที่บริษัทเปิดเผยสู่สาธารณะ เช่น รายงานประจำปี รายงานความยั่งยืน และเว็บไซต์บริษัท โดยเฉลี่ยแล้วบริษัทจะได้รับการประเมินประมาณ 125 ตัวชี้วัด ขึ้นอยู่กับประเด็นที่มีนัยสำคัญของแต่ละหมวดธุรกิจและประเทศ

FTSE Russell ESG Scores ใช้ระบบคะแนนตั้งแต่ 0.0 ถึง 5.0 โดยมีความหมายดังนี้

• 0.0: ไม่มีข้อมูลให้ประเมิน
• 5.0: Best practices หรือแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม

ระบบการประเมินนี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าใจการดำเนินงานด้าน ESG ของบริษัทในหลายมิติ และสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจลงทุน การบริหารความเสี่ยง และการพัฒนากลยุทธ์การลงทุนที่คำนึงถึง ESG

การประเมิน FTSE Russell ESG Scores ดำเนินการปีละครั้ง และผลคะแนนจะถูกประกาศผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและ FTSE Russell โดยบริษัทที่ได้รับการประเมินสามารถเข้าถึงรายงานผลการประเมินโดยละเอียดผ่านระบบของ FTSE Russell ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

เปรียบเทียบ FTSE Russell ESG กับมาตรฐานอื่นๆ

FTSE Russell ESG Scores เป็นหนึ่งในระบบการประเมินด้าน ESG ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล แต่ก็มีความแตกต่างจากระบบการประเมินอื่นๆ ที่สำคัญ ดังนี้

1. เปรียบเทียบกับ SET ESG Ratings

• ขอบเขต: FTSE Russell ประเมินบริษัทกว่า 8,000 แห่งใน 47 ประเทศ ในขณะที่ SET ESG Ratings เน้นเฉพาะบริษัทจดทะเบียนในไทย
• วิธีการประเมิน: FTSE Russell ใช้ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ SET ESG Ratings ใช้แบบสอบถามที่บริษัทตอบ
• ระดับคะแนน: FTSE Russell ใช้คะแนน 0-5 แต่ SET ESG Ratings แบ่งเป็น 4 ระดับ (BBB, A, AA, AAA)

2. เปรียบเทียบกับ MSCI ESG Ratings

• MSCI ใช้ระดับคะแนนตั้งแต่ AAA ถึง CCC ต่างจาก FTSE Russell ที่ใช้คะแนน 0-5
• MSCI เน้นการวิเคราะห์ความเสี่ยงด้าน ESG มากกว่า ในขณะที่ FTSE Russell ให้น้ำหนักกับการดำเนินงานด้าน ESG โดยรวม

3. เปรียบเทียบกับ S&P Global ESG Scores

• S&P Global ใช้คะแนนเต็ม 100 ต่างจาก FTSE Russell ที่ใช้คะแนน 0-5
• S&P Global มีการประเมินที่ละเอียดกว่าในบางอุตสาหกรรม แต่ FTSE Russell มีความครอบคลุมบริษัทที่กว้างกว่า

4. เปรียบเทียบกับ Sustainalytics

• Sustainalytics เน้นการประเมินความเสี่ยงด้าน ESG และให้คะแนนความเสี่ยง ต่างจาก FTSE Russell ที่ประเมินการดำเนินงานโดยรวม
• Sustainalytics มีการจัดอันดับในอุตสาหกรรม ในขณะที่ FTSE Russell ไม่เน้นการจัดอันดับแต่ให้คะแนนตามเกณฑ์ที่กำหนด

ข้อควรระวังสำหรับนักลงทุน

• ผลการประเมินจากแต่ละหน่วยงานอาจแตกต่างกันเนื่องจากวิธีการและเกณฑ์การประเมินที่ต่างกัน
• ควรพิจารณาข้อมูลจากหลายแหล่งประกอบการตัดสินใจลงทุน
• การประเมิน ESG เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์การลงทุน ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย

FTSE Russell ESG Scores มีจุดเด่นในด้านความครอบคลุมบริษัทจำนวนมากทั่วโลก และการใช้ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ซึ่งช่วยเพิ่มความโปร่งใสในการประเมิน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรใช้ข้อมูลจากหลายแหล่งและพิจารณาบริบทของแต่ละบริษัทประกอบการตัดสินใจลงทุนเสมอ

แหล่งข้อมูลและเอกสารอ้างอิง

สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ FTSE Russell ESG Scores มีแหล่งข้อมูลที่สำคัญดังนี้

เอกสารและ FAQ

• FTSE Russell เผยแพร่ The Guideline to FTSE Russell ESG Scores" ฉบับภาษาไทย ซึ่งอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างการประเมิน วิธีการคำนวณคะแนน และการนำผลประเมินไปใช้
• มีเอกสาร FAQ ที่ตอบคำถามเกี่ยวกับ FTSE Russell ESG Scores and Indices โดยละเอียด
• ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีเอกสาร "ตัวชี้วัดการประเมิน FTSE Russell ESG Scores" ที่แสดงรายละเอียดของตัวชี้วัดทั้งหมดที่ใช้ในการประเมิน

ปัจจัยที่ทำให้ได้คะแนนดี

• การเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสและครบถ้วน: FTSE Russell ใช้ข้อมูลที่บริษัทเปิดเผยสู่สาธารณะในการประเมิน
• การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้: โดยเฉพาะในด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
• การมีนโยบายและการดำเนินงานที่ครอบคลุมทั้ง 3 มิติ (สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล)
• การทวนสอบข้อมูลเชิงปริมาณโดยหน่วยงานภายนอก เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูล
• การมีนวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• การมีส่วนร่วมกับชุมชนและการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน

ผู้สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านเว็บไซต์ของ FTSE Russell และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทที่ได้รับการประเมินสามารถเข้าถึงรายงานผลการประเมินโดยละเอียดผ่านระบบของ FTSE Russell ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทเข้าใจจุดแข็งและโอกาสในการพัฒนาด้าน ESG ของตนเองได้ดียิ่งขึ้น

เกี่ยวกับ Optiwise

Optiwise ให้บริการที่ปรึกษาด้านนักลงทุนสัมพันธ์ บริการที่ปรึกษาด้าน ESG การออกแบบเว็บไซต์องค์กร (Corporate Website Design) และเว็บไซต์นักลงทุนสัมพันธ์ (IR Website) พร้อมให้คำปรึกษาในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) และจัดทำเอกสารเพื่อเปิดเผยข้อมูลของบริษัทมหาชน รวมถึงงานประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้กับบริษัท

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของ Optiwise ติดต่อเราได้ที่นี่