ข้อดี - ข้อเสีย การนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ | Optiwise
Article
19 กรกฎาคม 2567

ข้อดี - ข้อเสีย การนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์

ข้อดี - ข้อเสีย การนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์
ในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง บริษัทต่างๆ ต่างมองหาวิธีการระดมทุนที่มีประสิทธิภาพเพื่อขยายกิจการและเพิ่มขีดความสามารถในการเติบโต หนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมและถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางคือการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเปิดประตูสู่โอกาสในการระดมเงินทุนจากนักลงทุนจำนวนมหาศาล ทั้งรายย่อยและสถาบัน ทำให้บริษัทมีเงินทุนเพียงพอในการลงทุนและขยายธุรกิจได้อย่างก้าวกระโดด

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจ เข้า ตลาดหลักทรัพย์ ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้ามหรือตัดสินใจแบบชั่วพริบตา เพราะมันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่จะส่งผลต่อทิศทางและอนาคตของบริษัทในระยะยาว การเป็นบริษัทมหาชนมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ผู้บริหารต้องชั่งน้ำหนักอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าการระดมทุนผ่านตลาดหุ้นจะสร้างคุณค่าสูงสุดให้กับบริษัทและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ไม่ใช่กลายเป็นดาบสองคมที่ส่งผลเสียในภายหลัง

การพิจารณา ข้อดี ข้อเสีย การ เข้า ตลาดหลักทรัพย์ เป็นสิ่งสำคัญในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ดังนี้

ข้อดีของการเข้าตลาดหลักทรัพย์

  1. ระดมทุนได้มากขึ้น: การเข้าตลาดหลักทรัพย์ช่วยให้บริษัทสามารถระดมทุนจากนักลงทุนจำนวนมากผ่านการออกหุ้นสามัญ ทำให้มีเงินทุนเพียงพอสำหรับการขยายกิจการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือลงทุนในโครงการที่สำคัญ
  2. สภาพคล่องของหุ้นสูงขึ้น: หุ้นของบริษัทจดทะเบียนสามารถซื้อขายได้ง่ายในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ถือหุ้น ทำให้สามารถซื้อขายหุ้นได้สะดวกและรวดเร็วกว่าบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียน
  3. ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือ: การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ช่วยเสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของบริษัท แสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสและการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งจะดึงดูดลูกค้า นักลงทุน และพันธมิตรทางธุรกิจให้เข้ามาร่วมงานกับบริษัทมากขึ้น
  4. สิทธิประโยชน์ทางภาษี: บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อาจได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีบางประการจากภาครัฐ เช่น การลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล  ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้บริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
  5. ตรวจสอบมูลค่าบริษัทได้: ราคาหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์จะสะท้อนมูลค่าของบริษัทตามอุปสงค์และอุปทานของนักลงทุน ทำให้สามารถประเมินมูลค่ากิจการได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นประโยชน์ในการวางแผนกลยุทธ์และการตัดสินใจทางธุรกิจ

ข้อเสียของการเข้าตลาดหลักทรัพย์

  1. ความยุ่งยากในการบริหารจัดการ: บริษัทต้องเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการทั้งในด้านการเงิน การจัดการกับผู้ถือหุ้น และการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ กฎระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการเข้าตลาดหลักทรัพย์อาจทำให้การบริหารงานบางอย่างยุ่งยากขึ้น
  2. เปิดเผยข้อมูลมากขึ้น: บริษัทจดทะเบียนต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงินและข้อมูลสำคัญอื่นๆ ต่อสาธารณะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอาจเป็นข้อเสียเปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ หากคู่แข่งสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้
  3. แรงกดดันจากนักลงทุน: นักลงทุนมักคาดหวังให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องและจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูง ซึ่งสร้างแรงกดดันให้ผู้บริหารต้องทำงานหนักเพื่อตอบสนองความคาดหวังเหล่านี้ และอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่เน้นผลระยะสั้นมากกว่าการสร้างมูลค่าระยะยาว
  4. ความผันผวนของราคาหุ้น: ราคาหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์อาจมีความผันผวนตามภาวะตลาดและปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ เช่น ภาวะเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐ หรือวิกฤตการณ์ต่างๆ ซึ่งส่งผลต่อมูลค่าของบริษัทและความมั่งคั่งของผู้ถือหุ้น
  5. ความเสี่ยงในการถูกครอบงำ: การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงที่จะถูกครอบงำกิจการได้ง่ายขึ้น หากมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สะสมหุ้นจำนวนมากและใช้สิทธิออกเสียงเพื่อเข้าควบคุมการบริหารงานของบริษัท ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อผู้ถือหุ้นรายย่อยและทิศทางการดำเนินงานของบริษัท

นอกจากนี้ การเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ยังมีข้อควรพิจารณาอื่นๆ เช่น ความพร้อมของบริษัทในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นและอำนาจการบริหารงาน รวมถึงความสามารถในการรักษาความลับทางธุรกิจ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่บริษัทต้องชั่งน้ำหนักให้ดีก่อนตัดสินใจเข้าสู่ตลาดทุน

การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะส่งผลต่อความสำเร็จและความยั่งยืนของบริษัทในระยะยาว ผู้บริหารจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ประเมินความพร้อมของบริษัท และกำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อดีและรับมือกับข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น หากวางแผนและดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ การระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์จะช่วยให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจในการแข่งขันบนเวทีระดับโลกได้อย่างยั่งยืน



เกี่ยวกับ Optiwise

Optiwise ให้บริการที่ปรึกษาด้านนักลงทุนสัมพันธ์ บริการที่ปรึกษาด้าน ESG การออกแบบเว็บไซต์องค์กร (Corporate Website Design) และเว็บไซต์นักลงทุนสัมพันธ์ (IR Website) พร้อมให้คำปรึกษาในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) และจัดทำเอกสารสำคัญของบริษัทมหาชน รวมถึงงานประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้กับบริษัท

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของ Optiwise ติดต่อเราได้ที่นี่